หน่วยที่6

หน่วยที่6 นวัตกรรมการเรียนการสอน
นวัตกรรมการเรียนการสอน

ประวัติความเป็นมา
            ตั้งแต่กันยายนปี 1994 บริการ VOD กลายเป็นส่วนสำคัญของการพิจารณาคดีเคมบริดจ์โทรทัศน์ดิจิตอลอินเตอร์แอคทีในประเทศอังกฤษ วิดีโอนี้และให้ข้อมูลถึง 250 บ้านและจำนวนของโรงเรียนที่เชื่อมต่อสายเคเบิ้ลเคมบริดจ์เครือข่าย (ภายหลังส่วนหนึ่งของ NTL ขณะนี้Virgin Media ) วิดีโอ MPEG-1 ที่เข้ารหัสได้รับการสตรีมผ่านเครือข่ายเอทีเอ็มจากICLเซิร์ฟเวอร์สื่อเพื่อตั้งกล่องด้านบนออกแบบโดยโอ๊กสื่อออนไลน์ การทดลองเริ่มที่ความเร็ว 2 Mbit / s ไปที่บ้านเพิ่มสูงขึ้นต่อมาถึง 25 Mbit / sเนื้อหาถูกจัดให้โดยบีบีซีและโทรทัศน์แองเกลี . แม้ว่าจะประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิคที่ยากลำบากในการจัดหาเนื้อหาเป็นประเด็นสำคัญและโครงการที่ปิดในปี 1996
ในปี 1998 คิงส์ตันการสื่อสารกลายเป็น บริษัท ในสหราชอาณาจักรคนแรกที่เปิดให้บริการVOD ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มที่และเป็นครั้งแรกที่จะบูรณาการออกอากาศรายการโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตผ่าน set-top box เดียวโดยใช้การส่งมอบ IP ผ่าน ADSL 2001 โดยคิงส์ตันอินเตอร์แอคทีทีวีดึงดูด 15,000 สมาชิก หลังจากที่จำนวนของการทดลอง, HomeChoiceตามในปี 1999 แต่ถูก จำกัด ให้ลอนดอน . หลังจากที่ดึงดูดลูกค้า 40,000 พวกเขาถูกซื้อโดยTiscaliใน 2006 ที่ถูกในการเปิดซื้อTalk ของใน 2009 ผู้ให้บริการเคเบิ้ลทีวีTelewestและNTL (ตอนนี้Virgin Media ) เปิดตัวบริการ VOD ของพวกเขาในสหราชอาณาจักรในปี 2005 การแข่งขันกับทีวีระดับแนวหน้าของการจ่ายเงินแบบดั้งเดิมจำหน่ายBSkyB . BSkyB ตอบสนองด้วยการเปิดตัวสกายโดยบรอดแบนด์ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสกายทุกที่ทุกเวลาบนเครื่องพีซี . บริการไปอาศัยอยู่บน 2 มกราคม 2006 ท้องฟ้าทุกที่ทุกเวลาบนเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้กฎหมายแบบ peer-to-peerวิธีบนพื้นฐานของKontikiเทคโนโลยีเพื่อการดาวน์โหลดให้ความจุที่สูงมากหลายจุดของเนื้อหาวิดีโอ แทนของเนื้อหาวิดีโอทั้งหมดถูกดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์ของ Sky เนื้อหาที่มาจากผู้ใช้หลายคนของระบบที่ได้รับการดาวน์โหลดแล้วเนื้อหาเดียวกัน อื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรออกอากาศทีวีได้ดำเนินการรุ่นของตัวเองของเทคโนโลยีเดียวกันเช่นบีบีซี 's iPlayerซึ่งเปิดตัวที่ 25 ธันวาคม 2007 และ4 ช่องทางที่4oD (4 On Demand) ซึ่งเปิดตัวในปลายปี 2006 ตัวอย่างของการเผยแพร่วิดีโอออนไลน์โดยใช้กฎหมายอีกแบบ peer-to-peerเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับGirafficเทคโนโลยีซึ่งได้รับการเปิดตัวในต้นปี 2011 ที่มีขนาดใหญ่ผู้เผยแพร่-Video On-Demand ออนไลน์เช่นสหรัฐอเมริกาตาม Veoh และสหราชอาณาจักรตามความบ้าคลั่งของภาพยนตร์บริการเช่า OnlineMoviesBox บีบีซี , ไอทีวีและช่อง 4วางแผนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มร่วมกันที่เรียกว่าชั่วคราวจิงโจ้ใน 2008 [ 5 ]นี้ถูกทิ้งร้างในปี 2009 ต่อไปนี้การร้องเรียนการตรวจสอบโดยคณะกรรมการการแข่งขัน . ในปีเดียวกันนั้นสินทรัพย์ของโครงการจิงโจ้ตายถูกซื้อโดยArqiva , ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังจิงโจ้เพื่อเปิดกระดานหกบริการในกุมภาพันธ์ 2010 [ 7 ]ปีต่อมาอย่างไรกระดานหกก็ปิดลงจากการขาด เงินทุนบริการ VOD ขณะนี้มีอยู่ในทุกส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอัตราที่สูงที่สุด take-up ทั่วโลกของ VOD ในปี 2010, 80% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวอเมริกันได้ดูวิดีโอออนไลน์และ 42% ของโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดแอพพลิเคที่ต้องการวิดีโอไปยังเบราว์เซอร์ปกติ Streaming ระบบ VOD ที่มีอยู่บนเดสก์ทอปและแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือจากผู้ให้บริการเคเบิล (ควบคู่กับเคเบิลโมเด็มเทคโนโลยี) ที่ใช้แบนด์วิดธ์ขนาดใหญ่ในปัจจุบันต่อเนื่องในระบบเคเบิ้ลเพื่อนำเสนอภาพยนตร์และโทรทัศน์ การแสดงให้กับผู้ใช้ที่มักจะสามารถหยุดอย่างรวดเร็วส่งและภาพยนตร์ VOD ย้อนกลับเนื่องจาก latency ต่ำและธรรมชาติ random-access ของเทคโนโลยีสายเคเบิล การกระจายขนาดใหญ่ของสัญญาณเดียวที่ทำให้ VOD สตรีมมิ่งทำไม่ได้มากที่สุดสำหรับทีวีดาวเทียมระบบ ทั้งสองEchoStar / จานเครือข่ายและDirecTVวิดีโอข้อเสนอในการเขียนโปรแกรมความต้องการPVR -เจ้าของสมาชิกของบริการทีวีดาวเทียม เมื่อโปรแกรมได้รับดาวน์โหลดลง PVR ของผู้ใช้เขาหรือเธอสามารถดู, เล่น, หยุด, และแสวงหาความสะดวกของพวกเขา VOD ก็เป็นธรรมดาที่ค่อนข้างมีราคาแพงมากในโรงแรม . ระบบ VOD ที่จัดเก็บและให้ส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับเนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้โดยตรงจากอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่อย่างกว้างขวางตามที่ยุโรปโสตหอคอย , 142 จ่ายค่าบริการ VOD มีการดำเนินงานในยุโรปในช่วงปลายปี 2006 จำนวนที่เพิ่มขึ้นถึง 650 ภายในปี 2009
Video on Demand
คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ตามสั่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนตร์
หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้ตามต้องการตามสโลแกนว่า
To view "What one wants. when one wants."
โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks)
ผู้ใช้งาน ซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย(VideoClient)สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
ได้ทุกเมื่อตามต้องการและสามารถควบคุมข้อมูลวิดีโอนั้น ๆ โดยสามารถย้อนกลับ (Rewind)
หรือกรอไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราวได้เปรียบเสมือนการดูวิดีโอที่บ้านนั่นเอง
ทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคือสามารถดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน
หรือต่างกันก็ได้

วีดิทัศน์ตามคำขอ (Video on demand) คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ตามสั่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนตร์ หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้ตามต้องการ โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks) ผู้ใช้งานซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย (Video Client) สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อตามต้องการ และสามารถควบคุมข้อมูลวิดีโอนั้นๆ ได้โดยสามารถย้อนกลับ (Rewind) หรือกรอไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราวได้เปรียบเหมือนการดูวิดีทัศน์อยู่ที่บ้านนั่นเอง ทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคือสามารถดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกันหรือต่างกันก็ได้

การใช้งานวีดิทัศน์ตามคำขอ จะให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้ โดยผู้ใช้แต่ละคนจะสามารถเลือกดูรายการที่ตนเองสนใจเวลาใดก็ได้ โดยไม่ขึ้นอยู่กับผู้อื่นและไม่ต้องรอตารางเวลา แต่จะต้องใช้ความเร็วของเครือข่ายสื่อสารให้มากตามไปด้วย เนื่องจากจะต้องมีการส่งสัญญาณวิดีโอ 1 stream สำหรับผู้ใช้ 1 คน ระบบวีดิทัศน์ตามคำขอนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งในแง่ให้ความบันเทิงและให้ความรู้ ตามแต่เนื้อหาของวิดีทัศน์ที่บรรจุลงไป
Video on Demand คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ตามสั่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนตร์หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้ โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks) ผู้ใช้งาน ซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย (VideoClient) สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อตามต้องการและสามารถควบคุมข้อมูลวิดีโอนั้น ๆ ได้เปรียบเสมือนการดูวิดีโอที่บ้านนั่นเอง ทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคือสามารถดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ใช้บริการที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการรับชมสื่อเหล่านี้
Video on Demand  คือ ระบบการแพร่ภาพและเสียงจากคลังข้อมูลวีดิทัศน์ สู่ผู้ชมที่อยู่ในเครือข่ายการให้บริการ จากระบบการจัดการข้อมูลวีดิทัศน์ในลักษณะแบบทยอยส่งไปเรื่อยๆ(streaming) โดยผู้ชมสามารถควบคุมการชมรายการและสามารถเลือกชมรายการเดียวกันได้พร้อมๆ กัน Video on Demand เกิดจากการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยที่สามารถแปลงข้อมูลระบบอนาล็อกให้เป็นระบบดิจิตอล ด้วยการบีบอัดสัญญาณ (Signal Compression)ให้มีขนาดเล็ก ทำให้สามารถเก็บ ส่งสัญญาณได้มากและเร็ว ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการส่งสัญญาณวีดิทัศน์ เนื่องจากเป็นสัญญาณที่สิ้นเปลืองหน่วยความจำ เพราะเป็นสัญญาณที่ถูกแปลงมาจากข้อมูลเสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวVideo on Demand เป็นระบบสื่อประสมปฏิสัมพันธ์ Multimedia Interactive บนเครือข่าย Computer Network ที่ทำงานเหมือนกับเคเบิลทีวี (CATV) แตกต่างตรงที่มีจำนวนเรื่องให้ผู้ชมได้มีโอกาสได้เลือกเองมากกว่า โดยไม่คำนึงว่ากำลังให้บริการรายการใดกับใครอยู่ในขณะนั้น และไม่ต้องเสียเวลารอชมต่อจากผู้อื่น อีกทั้งผู้ชมเองก็สามารถควบคุมการเล่นหรือศึกษาได้ด้วยตนเองบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PCที่ต่อเชื่อมระบบเครือข่าย

Video on Demand คืออะไร
คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้รับชมสามารถเลือกดู ได้ตามต้องการ To view "What one wants. when one wants"
และผู้รับชมสามารถควบคุมข้อมูลวิดีโอนั้น ๆ โดยสามารถย้อนกลับ (Rewind) กรอไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราวได้เปรียบเสมือนการดูวิดีโอที่บ้านนั่นเอง
โดยที่ระบบนี้จะให้ความคมชัดของหนัง ได้เหมือนกับการดู หนังผ่านเครื่องเล่น VDO และจะเพิ่มความคมชัดขึ้นอีกตามความเร็ว Internet พื้นฐานของประเทศไทย
ทั่งนี้ ผู้รับชมจะต้องใช้ Internet ความเร็วอย่างน้อย 10 Mbps ขึ้นไป และจะต้องสามารถใช้งานตามความเร็วนั้นได้จริง จึงจะสามารถ รับชมได้อย่างราบรื่น
วิดีโอออนดีมานด์( Video on Demand )
             เป็นระบบสื่อประสมปฏิสัมพันธ์ (Multimedia Interactive) บนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ทำงานคล้ายกับระบบเคเบิลทีวี (CATV) แต่มีความแตกต่างตรงที่ผู้ชมสามารถเลือกชมเรื่องใดก็ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่คำนึงว่ากำลังให้บริการรายการใด ให้ใครอยู่ในขณะนั้น และไม่ต้องเสียเวลารอชมต่อจากผู้อื่น ผู้ชมสามารถควบคุมการเล่นได้ด้วยตนเองบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ที่ต่อเชื่อมระบบเครือข่าย
องค์ประกอบของระบบวีดีโอออนดีมานด์ ได้แก่ วีดีโอเซอร์ฟเวอร์ (Video Server) ระบบเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) และเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่าย (Video Client)
             วิดีโอเซอร์ฟเวอร์ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมีที่เก็บข้อมูลที่มีความจุสูงมากและมีความเร็วในการอ่านข้อมูลสูง เพื่อที่จะเก็บข้อมูลวิดีโอ สนองต่อความต้องการผู้ใช้โดยผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง(Gigabit LAN) โดยปกติแล้วข้อมูลวิดีโอ มีขนาดใหญ่และต้องการส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงจึงต้องมีการจัดการข้อมูลโดยใช้วิธีการ Streamingแทนการส่งข้อมูลไปทั้งหมดในคราวเดียวกัน เครื่องวิดีโอเซอร์เวอร์ต้องมี ประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรองรับและแจกจ่ายข้อมูลวิดีโอเหล่านั้นไปยังผู้ใช้บริการพร้อมกันหลายรายในคราวเดียวกันด้วย
Video on Demand คือระบบวิดิโอดิจิตอลที่ผู้ใช้สามารถเปิดวีดิทัศน์ที่มีอยู่ในรายการได้ทันที โดยไม่คำนึงว่ากำลังให้บริการรายการใดให้กับใครอยู่ในขณะนั้น พร้อมทั้งความสามารถในการควบคุมการเล่นได้ด้วยตนเอง โดยผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

Video on Demand
คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ตามสั่งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนตร์
หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงได้ตามต้องการตามสโลแกนว่า
To view "What one wants. when one wants."
โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks)
ผู้ใช้งาน ซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย(VideoClient)สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
ได้ทุกเมื่อตามต้องการและสามารถควบคุมข้อมูลวิดีโอนั้น ๆ โดยสามารถย้อนกลับ (Rewind)
หรือกรอไปข้างหน้า (Forward) หรือหยุดชั่วคราวได้เปรียบเสมือนการดูวิดีโอที่บ้านนั่นเอง
ทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคือสามารถดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน
หรือต่างกันก็ได้

Video on Demand
Video on Demand คือระบบวิดิโอดิจิตอลที่ผู้ใช้สามารถเปิดวีดิทัศน์ที่มีอยู่ในรายการได้ทันที โดยไม่คำนึงว่ากำลังให้บริการรายการใดให้กับใครอยู่ในขณะนั้น พร้อมทั้งความสามารถในการควบคุมการเล่นได้ด้วยตนเอง โดยผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
Video on Demand
     Video on Demand คือ ระบบการแพร่ภาพและเสียงจากคลังข้อมูลวีดิทัศน์ สู่ผู้ชมที่อยู่ในเครือข่ายการให้บริการ จากระบบการจัดการข้อมูลวีดิทัศน์ในลักษณะแบบทยอยส่งไปเรื่อยๆ (streaming) โดยผู้ชมสามารถควบคุมการชมรายการและสามารถเลือกชมรายการเดียวกันได้พร้อมๆ กัน Video on Demand เกิดจากการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยที่สามารถแปลงข้อมูลระบบอนาล็อกให้เป็นระบบดิจิตอล ด้วยการบีบอัดสัญญาณ (Signal Compression)ให้มีขนาดเล็ก ทำให้สามารถเก็บ ส่งสัญญาณได้มากและเร็ว ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการส่งสัญญาณวีดิทัศน์ เนื่องจากเป็นสัญญาณที่สิ้นเปลืองหน่วยความจำ เพราะเป็นสัญญาณที่ถูกแปลงมาจากข้อมูลเสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
การนำเอาระบบ Video on Demand มาให้บริการ ถือเป็นการสนองตอบนโยบายการศึกษาแนวใหม่ นั่นคือการเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียน (Child Center) แทนระบบเดิมที่ให้ผู้สอนเป็นศูนย์กลางการเรียน ดังนั้นการที่จะให้แนวการศึกษาใหม่นี้ประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นที่จะต้องสนับสนุนเครื่องมือสำหรับค้นคว้าข้อมูล และเครื่องมือที่จะละเลยเสียไม่ได้เลยก็คือ Video on Demand นั่นเอง


ส่วนประกอบหลักของ Video on Demand
     ส่วนประกอบหลักและการทำงานของแต่ละส่วนในระบบ Video on Demand
     มีดังต่อไปนี้

       -  เครื่อง Video Server
      ระบบ VOD จะทำการเก็บข้อมูลภาพเคลื่อนไหวเป็นแบบดิจิตัลบนเครื่อง video server
และเครื่อง server นั้นจะส่งข้อมูลภาพเคลื่อนไหวไปให้เครื่องลูกข่าย (Video Client) ตามที่ขอมา
โดยคุณสมบัติของ video server ก็คืออัตราการเปลี่ยนแปลงของภาพต่อเนื่องจะต้องมากพอเพื่อที่จะสามารถ
ถ่ายทอดข้อมูลภาพและเสียงอย่างครบสมบูรณ์ให้เกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่องสำหรับผู้ใช้ซึ่งอยู่ที่เครื่องลูกข่าย
และมีระบบอินพุต/เอาต์พุตที่มีประสิทธิภาพ

      เครื่อง video server จะต้องมีระบบฮาร์ดดิสก์ ซึ่งใช้เก็บข้อมูลภาพยนตร์
หรือภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆที่มีความเร็วมากพอที่จะทำการอ่านข้อมูล
และส่งออกไปยังระบบเครือข่ายเพื่อส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ต่อไปตามปกติแล้วข้อมูลวิดีโอมักจะมีขนาดใหญ่
และต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลมาก (1.5 Mbps สำหรับคุณภาพ MPEF-1 หรือระดับVideo VHS
และ 6-8 MBPS สำหรับคุณภาพ MPEG-2 หรือระดับเลเซอร์ดิสก์) ดังนั้นเครื่อง Video Server
จึงต้องมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรองรับและแจกจ่ายข้อมูลวิดีโอเหล่านี้ไปยังลูกข่ายหรือไคลแอนต์ได้

     เครื่อง Video Server จะมีที่เก็บข้อมูลเรียกว่า disk array ที่มีความจุและความเร็วสูง ทำหน้าที่
เป็นหน่วยเก็บภาพเคลื่อนไหว (Video)ซึ่งจะทำการจัดเก็บวิดีโอในตัวของมันในรูปแบบของบิตข้อมูลดิจิตัล
ข้อมูลที่เก็บอยู่จะผ่านการบีบอัดข้อมูล (Data Compression) โดยเครื่องเข้ารหัส (Encoder)
ในรูปแบบมาตรฐานของMPEG (Moving Picture Experts Group)
ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พัฒนาเพื่อใช้กับการแพร่ภาพโทรทัศน์ในระบบดิจิตัล

ระบบ VODจะต้องมีส่วนเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่สามารถส่งข้อมูล
ออกทางเครือข่ายสื่อสารด้วยความเร็วมากพอ โดยข้อมูลที่ถูกบีบอัด
ดังกล่าวจะถูกส่งผ่านเครือข่ายในลักษณะ real-time ไปยังเครื่องลูกข่าย
ที่เป็น Video Client และเนื่องจากข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจำนวนมาก
จะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์ลูกข่ายตามที่ผู้ใช้ที่ปลายทางเรียกขึ้นมา
ดังนั้นระบบเครือข่ายสื่อสารที่จะมารองรับการใช้งานระบบ VOD
จะต้องมีความเร็วและประสิทธิภาพสูงพอที่จะสามารถรองรับข้อมูล
มัลติมีเดียจำนวนมหาศาลนี้ได้ เช่น

     - ATM (Asynchronous Transfer Mode)
      - FDDI (Fiber Distributed Data Interface)
      - DQDB (Distributed Queue Dual Bus)    
      - 100-Mbps Ethernet (IEEE 802.12)

ในบรรดาเครือข่ายทั้งหมดนี้ ระบบเครือข่าย
ATM (Asynchronous Transfer Mode) เป็นเครือข่ายที่มาแรงที่สุด
และเป็นที่นิยมที่สุดในการใช้กับระบบ VOD เนื่องจาก ATM
เป็นเครือข่ายซึ่งได้พัฒนามาเพื่อการส่งข้อมูลทุกรูปแบบที่ความเร็วสูง
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล เสียง data หรือ video และมีการประกันคุณภาพการส่ง
(Quality of Service) ด้วย

      เครื่องลูกข่าย (Video Client)
      Video Client เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อเล็กทรอนิกส์
ที่สามารถแปลงข้อมูลที่ได้รับจาก Video Server ให้เป็นสัญญาณภาพ
และแสดงผลขึ้นบนจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรทัศน์ที่เป็น
End User Equipment ได้


โครงสร้างโดยรวม (Architecture) ของระบบ Video on Demand
จะประกอบด้วย video server และ local database ซึ่งจะต่อถึงผู้ใช้งานโดย
ผ่านเครื่อข่ายสื่อสาร ทางด้านเครื่อง video client ของผู้ใช้งาน
จะต้องประกอบด้วยส่วน interface ตลอดจนส่วน decoder ข้อมูลที่ส่งมา
จากเครื่อง server และจะสามารถดูข้อมูลภาพเคลื่อนไหวผ่านจอ
(อาจเป็นจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรทัศน์ก็ได้)
และรับสัญญาณเสียงออกทางลำโพง (speaker)
ส่วนประกอบทางด้านผู้ใช้งาน แสดงดังรูปที่ 3 ส่วน network interface
ทำหน้าที่ถอดรหัสสัญญาณที่เข้ามาและส่งต่อไปยังอุปกรณ์เอาต์พุต
(จอและลำโพง) ที่ได้เลือกใช้บริการจากระบบ VOD และยังทำหน้าที่
แปลข้อมูลการเลือกของผู้ใช้ (ซึ่งผู้ใช้อาจเลือกผ่านรีโมตคอนโทรล
คีย์บอร์ด หรือเมาส์)
เป็นสัญญาณที่ใช้สำหรับส่งต่อไปในเครือข่ายอีกด้วย

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการสั่งงานของผู้ใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะบริการ
ของระบบ VOD ที่ใช้ เช่น ถ้าใช้บริการ Movies on Demand
ก็ควรจะเลือกภาพยนตร์และควบคุมฟังก์ชั่นโดยใช้รีโมตคอนโทรล
แต่ถ้าใช้บริการในลักษณะ Distance Learning การใช้คีย์บอร์ดดูจะ
เหมาะสมกว่า เป็นต้น

ส่วนประกอบของระบบ Video on Demand
ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลัก 3 ส่วนดังต่อไปนี้
1. เครื่องแม่ข่ายวีดิทัศน์ (Video Server)
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยเก็บข้อมูลวีดิทัศน์ขนาดใหญ่พร้อมโปรแกรมบริหารสายธาร (Streaming Managemet) เพื่อรับประกันการส่งภาพอย่างต่อเนื่องให้กับเครื่องลูกข่าย (Client)หากปราศจากโปรแกรมบริหารสายธาร คอมพิวเตอร์แม่ข่ายนี้ก็เป็นเพียงเครื่องแม่ข่ายเก็บข้อมูล (Database Server) ธรรมดา
2. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network)
เป็นเส้นทางที่เครื่องแม่ข่ายจะส่งสายธารวีดิทัศน์ให้กับผู้ร้องขอ ประกอบด้วยแผ่นวงจรเครือข่าย (Network Interface Card) ติดตั้งไว้ในเครื่องแม่ข่ายและลูกข่าย สายเชื่อมต่อสัญญาณ (Network Cable) และอุปกรณ์สลับเส้นทาง (Network Switch) ระบบเครือข่ายอาจจะเป็นระบบอีเทอร์เนต (Ethernet) หรือเอทีเอ็ม (ATM) โดยใช้สายคู่ตีเกลียว (UTP) หรือสายใยแก้ว (Optical Fiber) ตามความเหมาะสม
3. เครื่องลูกข่าย (Client)
คือเครื่องรับสัญญาณวีดิทัศน์จากเครื่องแม่ข่าย อาจจะอยู่ในรูปของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกล่องสำเร็จ (Set Top Box) ภายในจะมีตัวถอดรหัส (Decoder) สัญญาณดิจิตอลวีดิทัศน์ที่ส่งมาจากเครื่องแม่ข่ายให้อยู่ในรูปที่มองเห็นได้บนคอมพิวเตอร์หรือจอภาพโทรทัศน์ เครื่องลูกข่ายจะต้องมีอุปกรณ์สั่งการเพื่อให้เลือกรายการได้เช่น แป้นพิมพ์ จอภาพสัมผัส หรือเครื่องควบคุมระยะไกล (Remote Control) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด


ส่วนประกอบของระบบVideo on Demand ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลัก 3 ส่วนดังต่อไปนี้
1. เครื่องแม่ข่ายวีดิทัศน์ (Video Server)
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยเก็บข้อมูลวีดิทัศน์ขนาดใหญ่พร้อมโปรแกรมบริหารสายธาร (Streaming Managemet) เพื่อรับประกันการส่งภาพอย่างต่อเนื่องให้กับเครื่องลูกข่าย (Client)หากปราศจากโปรแกรมบริหารสายธาร คอมพิวเตอร์แม่ข่ายนี้ก็เป็นเพียงเครื่องแม่ข่ายเก็บข้อมูล (Database Server) ธรรมดา
2. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network)
เป็นเส้นทางที่เครื่องแม่ข่ายจะส่งสายธารวีดิทัศน์ให้กับผู้ร้องขอ ประกอบด้วยแผ่นวงจรเครือข่าย (Network Interface Card) ติดตั้งไว้ในเครื่องแม่ข่ายและลูกข่าย สายเชื่อมต่อสัญญาณ (Network Cable) และอุปกรณ์สลับเส้นทาง (Network Switch) ระบบเครือข่ายอาจจะเป็นระบบอีเทอร์เนต (Ethernet) หรือเอทีเอ็ม (ATM) โดยใช้สายคู่ตีเกลียว (UTP) หรือสายใยแก้ว (Optical Fiber) ตามความเหมาะสม
3. เครื่องลูกข่าย (Client)
คือเครื่องรับสัญญาณวีดิทัศน์จากเครื่องแม่ข่าย อาจจะอยู่ในรูปของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกล่องสำเร็จ (Set Top Box) ภายในจะมีตัวถอดรหัส (Decoder) สัญญาณดิจิตอลวีดิทัศน์ที่ส่งมาจากเครื่องแม่ข่ายให้อยู่ในรูปที่มองเห็นได้บนคอมพิวเตอร์หรือจอภาพโทรทัศน์ เครื่องลูกข่ายจะต้องมีอุปกรณ์สั่งการเพื่อให้เลือกรายการได้เช่น แป้นพิมพ์ จอภาพสัมผัส หรือเครื่องควบคุมระยะไกล (Remote Control) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมด

การเข้าถึง Video on Demand สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทโดยในแต่ละประเภทจะต้องการส่วนประกอบทางเทคนิคที่แตกต่างกันไปดังนี้
1. Near Video on Demand
                เป็นระบบ Video on Demand  ที่ไม่ตอบสนองการร้องขอทันที เมื่อมีการร้องขอจะมีการจัดข้อมูลและรอรวบรวมผู้ใช้ในระยะเวลาหนึ่ง เช่นทุกๆภายใน 10 วินาที จึงจะจ่ายวิดีโอออกไป โดยผู้ใช้ที่ขอเรื่องเดียวกันจะใช้วิดีโอที่กำลังส่งมาร่วมกัน วิธีนี้จะเป้นการประหยัดแบนด์วิธของตัวเก็บข้อมูลและเครือข่ายจึงสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เก็บข้อมูลความเร็วต่ำเช่น CD-ROM Juke box ได้
2. True Video on Demand
                เป็นระบบที่ได้ปรับปรุงขึ้นมาอีกระดับหนึ่งโดยสามารถตอบสนองการร้องขอได้ในทันทีโดยไม่ต้องมีการรอผู้ใช้รายอื่น ตามปกติวิดีโอจะถูกแยกส่งตรงไปยังผู้ขอแต่ละรายเสมอ ยกเว้นเมื่อมีการขอพร้อมกันจริงๆ จึงจะใช้วิดีโอร่วมกัน อย่างไรก็ตามวิธีนี้ผู้ใช้ยังไม่สามารถควบคุมการเล่น ได้ (Navigation) ด้วยตนเองอย่างอิสระ
3. Interactive Video on Demand
                เป็นการพัฒนาในระดับสูงสุดที่มีอยู่ภายในปัจจุบัน ผู้ใช้มีอิสระอย่างเต็มที่ในการเลือกรายการ บังคับควบคุมการเล่นเช่น การหยุดชั่วขณะ การเดินหน้าถอยหลัง แม้กระทั่งการยกเลิกและการเปลี่ยนเรื่องใหม่ ด้วยวิธีนี้วิดีโอในแต่ละรายการจะถูกแยกส่งตรงไปยังผู้ใช้แต่ละรายจริงๆ ถึงแม้วิธีขอรายเดียวกันก็ตาม






Video on Demand สำหรับงานบริการการศึกษา
สำหรับงานด้านการศึกษา  Video on Demand สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างกว้างขวางดังตัวอย่างพอสังเขปดังต่อไปนี้
-              งานเผยแพร่คำบรรยาย เป็นการบันทึกการบรรยายของผู้สอนในการบรรยายตามปกติไว้ในเครื่องแม่ข่ายวีดิทัศน์ เพื่อบริการให้กับผู้พลาดการบรรยายด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผู้ต้องการทบทวนเนื้อหาหลักสูตร หรือผู้ที่ตามคำสอนไม่ทันได้มีโอกาสไปขอรับบริการจากศูนย์บริการข้อมูลหรือห้องสมุดได้
-              บริการวีดิทัศน์การศึกษา เป็นวีดิทัศน์ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ วีดิทัศน์ประเภทนี้จะมีเนื้อหาที่รัดกุมกว่า ภาพประกอบ คำบรรยาย วอย่าง จะสมบูรณ์มากกว่า จึงเหมาะสำหรับการนำมาให้บริการ Video on Demand เพื่อการศึกษาค้นคว้าได้อีกชนิดหนึ่ง

-              บริการข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ การศึกษาไม่จำกัดอยู่เฉพาะในตำรา ข่าวสารและเหตุการณ์ที่สำคัญถือเป็นเนื้อหาที่บรรจุอยู่ในหลายหลักสูตร การบรรจุข่าวสารที่สำคัญไว้ในเครื่องแม่ข่ายวีดิทัศน์ ก็สามารถสร้างศูนย์บริการข่าววีดิทัศน์บนเครือข่ายได้
-              สารคดีประกอบบทเรียน สารคดีที่มีประโยชน์คือแหล่งความรู้อันมหาศาล ความเข้าใจเรื่องธรรมชาติ ภูมิศาสตร์ ขนบธรรมเนียม ประเพณี การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เกิดวิสัยทัศน์ ความตื่นตัว และพัฒนาการ จึงสมควรมีไว้บริการในระบบ Video on Demand เช่นกัน
-              การฝึกภาคปฏิบัติ ห้องปฏิบัติการทางภาษา งานหัตกรรมบางประเภท งานที่ต้องใช้ความละเอียด ตัวอย่างที่เสี่ยงอันตราย เหมาะอย่างยิ่งที่จะเผยแพร่ในรูปของวีดิทัศน์ ผู้ปฏิบัติสามารถย้อนกลับไปกลับมาเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหายต่อระบบถ้าหากเป็นการเปิดจากระบบ Video on Demand



การประยุกต์ใช้งานระบบ Video on Demand
ด้วยเหตุที่ Video on Demand มีข้อดีเหนือกว่าการให้บริการที่ใช้ม้วนหรือแผ่นวีดิทัศน์ชนิดต่าง ๆดังกล่าว มาแล้ว จึงมีการนำไปประยุกต์ใช้งานในหลาย ๆด้านดังตัวอย่างต่อไปนี้
-              งานบริการสื่อการศึกษา (Self Learning หรือ Instruction on Demand) เพื่อให้บริการวีดิทัศน์การเรียนการสอน การฝึกอบรม สารคดี ข่าวสารที่สำคัญ ผ่านทางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุด
-              งานบริการภาพยนตร์บันเทิง  (Movie on Demand) บริการที่ดีคือหัวใจของธุรกิจประเภทโรงแรม โรงพยาบาล สายการบิน การที่ลูกค้าสามารถเลือกชมภาพยนตร์ เรื่องต่าง ๆ ภายในห้องได้ทันทีพร้อมทั้งควบคุมการเล่นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องรอเวลา ย่อมเป็นที่ชื่นชอบ ของลูกค้ามากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มบริการเสริมเช่น ข้อมูลการท่องเที่ยว อินเตอร์เน็ต  หรือสั่งอาหารออนไลน์ได้อีกด้วย

-              ห้องร้องเพลง (Karaoke on Demand) ห้องร้องเพลงสามารถใช้ประโยชน์จาก Video on Demand ได้เป็นอย่างดี เพราะผู้ใช้บริการสามารถเลือกเพลง เปลี่ยนลำดับ หรือยกเลิกด้วยตนเองได้ทันที พร้อมให้บริการเสริมได้เช่นเดียวกับงานบริการภาพยนตร์บันเทิง
-              บริการดนตรี (Music on Demand) ลักษณะเช่นเดียวกับห้องร้องเพลง แต่เนื้อหาจะเปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นวีดิทัศน์คาราโอเกะซึ่งต้องมีคำร้องใต้ภาพและอาจจะไม่มีเสียงของนักร้อง  ก็เป็นวีดิทัศน์การแสดงคอนเสิร์ตหรือมิวสิกวิดีโอแทน
-              ตู้ข่าวสารข้อมูลที่โต้ตอบได้ (Interactive Information Kiosk) ตู้ข่าวสารข้อมูลสำหรับงานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ไหนเช่นบริเวณสนามบิน ศูนย์การค้า โรงแรม ห้องสมุด และสถานที่ราชการ การเพิ่มข้อมูลที่เป็นวีดิทัศน์ย่อมให้ความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ดีกว่า
-              งานฐานข้อมูลวีดิทัศน์ (Video Archiving, Video Library) การเก็บบันทึกข้อมูลวีดิทัศน์เพื่อการสืบค้น ในห้องสมุดวีดิทัศน์ ห้องสมุดข่าว ข้อมูลสำหรับผู้บริหาร หรือแม้แต่การเก็บภาพสำหรับงานสตูดิโอก็สามารถนำ Video on Demand มาประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดีทั้งสิ้น
-            

ข้อดีของระบบ Video on Demand
เมื่อเทียบกับการบริการวีดิทัศน์ในรูปของม้วนหรือแผ่นวีดิทัศน์ชนิดต่าง ๆ แล้ว ระบบ Video on Demand จะมีข้อดีเหนือกว่าหลายประการดังนี้
1.            ให้บริการได้พร้อมกันจำนวนมาก ระบบ Video on Demand จะสามารถให้บริการลูกข่ายที่ร้องขอรายการเดียวกันได้พร้อมกันหรือให้บริการรายการที่ต่างกันทั้งหมดได้อีกด้วย ความสามารถนี้เกิดจากการจัดการขององค์ประกอบของระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
2.            ไม่เสื่อมคุณภาพจากการใช้งาน  Video on Demand เป็นดิจิตอลวีดิทัศน์ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสของคอมพิวเตอร์ซึ่งมีวิธีการตรวจเช็คและแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างยอดเยี่ยม ข้อมูลวีดิทัศน์จึงถูกเก็บรักษาและนำไปใช้โดยไม่มีการเสื่อมหรือสูญหาย
3.            ทำงานได้รวดเร็วการทำงานกับดิจิตอลวีดิทัศน์ในฮาร์ดดิสซึ่งมีความเร็วสูงและเข้าถึงข้อมูลได้ทันทีแบบสุ่ม (Random Access) จึงสามารถเปิด ควบคุม และค้นหา ได้อย่างรวดเร็วและทันทีโดยไม่ต้องรอการกรอม้วนเทปไปมา
4.            จัดทำบันทึกและรายงานได้สะดวก ด้วยความสามารถของคอมพิวเตอร์ จึงไม่เป็นการยากที่จะบันทึกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้เรียกใช้ รายการ ระยะเวลา ความถี่ พร้อมทั้งการจัดพิมพ์รายงานตามรูปแบบที่ต้องการได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
5.            มีความปลอดภัยสูง การโยกย้าย เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลใด ๆบนเครื่องแม่ข่ายจะทำไม่ได้หากไม่มีหน้าที่ หรืออำนาจในการจัดการ หมดปัญหาอุบัติเหตุจากการตกหล่น สูญหาย  ชำรุด หรือถูกลบทิ้งจากการใช้งาน
6.            ไม่ต้องใช้เครื่องเปิดโดยฉพาะใช้เพียงคอมพิวเตอร์ธรรมดาที่มีอยู่ไปในหน่วยงานมาเชื่อมต่อเป็นเครื่องลูกข่ายได้ทันที ประสิทธิภาพของการถอดรหัส ความราบเรียบของภาพวีดิทัศน์ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์นั้น ๆ
7.            เสริมบริการอื่น ๆได้ การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องลูกข่าย ทำให้เพิ่มบริการเสริมต่าง ๆได้โดยสะดวกเช่น บริการการท่องอินเตอร์เน็ต การค้นข้อมูลในห้องสมุด การลงทะเบียน การดูผลการสอบ และ การคิดค่าบริการเป็นต้น

1.            ให้บริการได้พร้อมกันจำนวนมาก ระบบ Video on Demand จะสามารถให้บริการลูกข่ายที่ร้องขอรายการเดียวกันได้พร้อมกันหรือให้บริการรายการที่ต่างกันทั้งหมดได้อีกด้วย ความสามารถนี้เกิดจากการจัดการขององค์ประกอบของระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
2.            ไม่เสื่อมคุณภาพจากการใช้งาน  Video on Demand เป็นดิจิตอลวีดิทัศน์ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสของคอมพิวเตอร์ซึ่งมีวิธีการตรวจเช็คและแก้ไขข้อผิดพลาดอย่างยอดเยี่ยม ข้อมูลวีดิทัศน์จึงถูกเก็บรักษาและนำไปใช้โดยไม่มีการเสื่อมหรือสูญหาย
3.            ทำงานได้รวดเร็วการทำงานกับดิจิตอลวีดิทัศน์ในฮาร์ดดิสซึ่งมีความเร็วสูงและเข้าถึงข้อมูลได้ทันทีแบบสุ่ม (Random Access) จึงสามารถเปิด ควบคุม และค้นหา ได้อย่างรวดเร็วและทันทีโดยไม่ต้องรอการกรอม้วนเทปไปมา
4.            จัดทำบันทึกและรายงานได้สะดวก ด้วยความสามารถของคอมพิวเตอร์ จึงไม่เป็นการยากที่จะบันทึกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้เรียกใช้ รายการ ระยะเวลา ความถี่ พร้อมทั้งการจัดพิมพ์รายงานตามรูปแบบที่ต้องการได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
5.            มีความปลอดภัยสูง การโยกย้าย เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลใด ๆบนเครื่องแม่ข่ายจะทำไม่ได้หากไม่มีหน้าที่ หรืออำนาจในการจัดการ หมดปัญหาอุบัติเหตุจากการตกหล่น สูญหาย  ชำรุด หรือถูกลบทิ้งจากการใช้งาน
6.            ไม่ต้องใช้เครื่องเปิดโดยเฉพาะใช้เพียงคอมพิวเตอร์ธรรมดาที่มีอยู่ไปในหน่วยงานมาเชื่อมต่อเป็นเครื่องลูกข่ายได้ทันที ประสิทธิภาพของการถอดรหัส ความราบเรียบของภาพวีดิทัศน์ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์นั้น ๆ
7.            เสริมบริการอื่น ๆได้ การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องลูกข่าย ทำให้เพิ่มบริการเสริมต่าง ๆได้โดยสะดวกเช่น บริการการท่องอินเตอร์เน็ต การค้นข้อมูลในห้องสมุด การลงทะเบียน การดูผลการสอบ และ การคิดค่าบริการเป็นต้น
มัลติมีเดียบนเครือข่าย

ที่สุดของความสมบูรณ์ในการเสนอข้อมูลข่าวสาร ก็คือการผสมผสานกันระหว่างคำอธิบายที่เป็นตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ตลอดจนภาพวีดิทัศน์บนระบบเครือข่ายความเร็วสูง ทั้งหมดนี้จะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีการนำเอาระบบ Video on Demand มาร่วมกับโปรแกรมมัลติมีเดียเหล่านี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น